Monday, February 9, 2015

บทความพิเศษ: สืบเนื่องจากอาการปวดหลัง เมื่อเริ่มทุเลาแล้วจะทำอย่างไร ?

สวัสดีครับ

   ผมเป็นอาการปวดหลังมา ก็ราวๆ 10 เดือนแล้วครับ ชีวิตได้พบอะไรมากมาย และ ได้พบว่า เราได้ศึกษามามาก เรามีความรู้บางอย่างที่ผ่านมาจากประสบการณ์ ที่นำมาใช้ได้ แต่ขณะเดียวกัน เราก็พบว่า เราได้เรียนวิชาชีวิต เพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่คิดว่า เราผ่านอะไรมามากแล้ว

     ถือว่าได้เรียนวิชาใหม่เพิ่มครับ เอ้ามาว่ากันต่อสำหรับคนที่ปวดหลัง แบบผม และมีอาการขา อ่อนแรง ซึ่ง ที่ผมเป็นนี่ถือว่าน้อยครับ คนที่เป็นมาก อาจต้องฟื้นตัวนานเลย แต่ผมก็เดินได้ปกติ มาตั้งแต่ปวดหลังใหม่ๆ คือมีอาการตรงก้น ที่มีกล้ามเนื้อกลูเดียส อะไรนี่ล่ะ ร่วด้วย โดย ผมได้โชค ดังนี้

      1.ผมได้ทราบว่า อาการที่ปวดตรงก้น เข้าไปลึกๆ ที่ไม่หายเสียที มาจาก กล้าม กลูเตียส ถูกใช้งานผิดวิธี น่าจะใช่เพราะผม ไปนั่งเก้าอี้ ก้มเก็บของครับ แล้วนึกภาพคนพุงใหญ่ๆ ก้มเก็บของ คือเราเซฟเข่า เซฟหลัง แต่ดันมาใช้กล้ามที่ก้น ผิดท่าทางไป เลยยาว และก้มตัวเก็บของ กับ ขนของเยอะมากๆ  ติดๆ กันหลายวัน ข้ามสัปดาห์ คือประมาทว่า รู้วิธีใช้กล้ามเนื้อ และป้องกันอันตราย กับกล้ามเนื้อกลุ่มหนึ่งตามวิชาการ ที่ลืมกฎไม่หนึ่งข้อว่า ขณะที่เราออกแรง กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนได้มีส่วนร่วมในการออกกำลัง จะมากน้อย ก็เท่านั้นเอง แต่ครานี้ มันมาโดนกล้ามเนื้อที่เรา นึกไม่ถึงเข้านี่สิ คือ บริเวณหลังส่วนล่าง และ ก้น เต็มๆ ใครจะคาดคิด

         ผมได้ ตั้งสติ หลังเกิดอาการปวดอย่างรุนแรง ซึ่งต่อมามีผลยาวต่อมาอีก 6-7 เดือนหลังจากนั้น  ในเดือนแรกที่มีอาการ ชีวิตผมไม่ต้องทำไรครับ แค่นึกเรื่องปวด ก็หมดเวลาไปกับมันแล้ว น้ำหนักผมลดฮวบเลย เพราะ หนึ่งไปไหนไม่ไหว สองกลัวว่าน้ำหนักตัวจะทำให้เจ็บมาก กินก็กินน้อยลง คนมันรู้ตัวเอง
ผมค่อยๆ หาข้อมูล เริ่มเจอ จาก Youtube เช่น ท่ากายภาพต่างๆ ท่าโยคะ ท่ายืดเส้น ของสถาบันเช่น มหิดล และ ที่อื่นๆ รวมทั้งครูอาจารย์ สายต่างๆ ผมเห็นท่าไหน วิธีใดดีๆ ก็จะเอามาทำหมด โดยมีการทำแบบวิทยาศาสตร์ คือ

            1.ท่าไหนตรงกับเรา ก็เอามาทำ  ท่าไหนไม่ดี ทำแล้วเจ็บ ก็เปลี่ยนท่าใหม่มาแทน
             2.รวบรวมท่าดีๆ ไว้ได้จำนวนมากพอ และขยันทำครับ
     
        ก็ลองตามอ่านในบทความที่ผ่านๆ มาครับ สำคัญคือให้ทำ ช้าๆ ไม่รีบครับ

       ในเดือนแรก ผมพบวิธีคลายอาการกล้ามเนื้อหยุดทำงาน โดยผมพบว่ามันเป็นแบบนี้ เพราะเราใช้งานมันผิดท่า และมากเกินไป ทำให้ กล้ามเนื้อประท้วง โดยการหยุดทำงานตามปกติ และส่งผลให้เกิดการ เจ็บปวดอย่างรุนแรง กลางคืนผมนอนไม่หลับเลย ต้องนั่งหลับครับ นอนท่าไหนก็ไม่ได้ ผมเชื่อว่า นี่เป็น เรื่องของเวรกรรม ที่ผมคงไปทำอะไรไว้ครับ แต่ก็ได้ชดใช้ไปแล้วครับ ตามสมควร

        ผมค้นไปก็ได้ เบาะแส ก็ค้นต่อในเน็ต จนไปเจอท่า ที่ทำให้กล้ามเนื้อ กลูเตียส ฟื้นสภาพได้ เขาให้นั่งครับ บนเก้าอี้ หลังตรงๆ แล้วเกร็งแก้มก้น ขวา 10 นับ (แต่ละครั้ง เกร็งแล้วนับ 3วินาที พัก 1 วินาที) จากนั้น ให้เกร็งแก้มก้นซ้าย ทำแบบเดียวกัน เชื่อไหม ทำกลางวัน คืนนั้น ผมนอนหลับได้เลย นี่ล่ะ ผมต้อง กราบขอบพระคุณคนที่เผยแผ่วิชาไว้ ณ. ที่นี้ครับ ต่อมาก็ทำเป็นประจำ แล้วก็สามารถนอนหลับได้จริงๆ แต่อาการปวดยังมีอยู่มากครับ

       จากนั้นผมก็ทำโยคะท่าที่ทำได้ ท่าไหน สังหรณ์ว่า น่ากลัว อย่าทำ เอาไว้ก่อน แบบนี้ ท่าลมปราณบู๊ตึ้ง ยืดเส้น เอาหมด ทำเพียงวันละ 30-40 นาที ผมทำอยู่ราวๆ 2 เดือนก็ดีขึ้น โดยผมไม่ได้ใช้ยาเลย ใช้การทนเอาครับ ลำบากก็ตอน ตื่น ลุกนั่งจะรอนานหน่อยกว่าจะคลาย จนยืนได้

       ผ่านไป สัก 4 เดือนเริ่มเอาท่า ครึ่งเต่า หรือ ก้มกราบ แล้วยืดแขนไปด้านหน้าจนสุดมาลองทำ ปรากฎว่า อากรปวดหลังที่มีอาการหมอนรองเคลื่อน เริ่มดีขึ้น ทำไปเรื่อยๆ เอ้า กล้ามเนื้อก้น ที่ปวดมาก หายมาก่อนเลย งงครับ ต่อมา อาการปวดหลังมาก ก็หายดีอีก

      แต่อาการขาไม่ไปตามคิด คือ ยังยืนโยกเยก ต้องใช้ไม้เท้า มันดีขึ้นครับแบบก้าวกระโดด คือจริงๆ พอผ่านมา 7-8 เดือนอาจปล่อยไม้เท้าได้แล้ว แต่ผมยังต้องใช้เพราะ การทำงาน มี บันไดเยอะมากๆ
ชีวิตเริ่ม หายปวดมากขึ้น

        คนที่ปวดหลัง ปวดเรื้อรัง ระวังเรื่องกินด้วยครับ หลายคน น้ำหนักขึ้น เพราะ การกินมันทำให้เราเพลินครับ และ ความปวดมันทำให้เราเหนื่อย มันลวงเราได้ เรื่อง เหนื่อย ซึ่งปวดเหนื่อย ไม่ใช่ออกกำลังกายเหนื่อยๆ ดังนั้น กินมาก  ก็จะอ้วนได้

       เมื่อเริ่มแข็งแรง หายปวดมากขึ้น แต่เราใช้ไม้เท้า นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะเราอาจลืมท่าเดินครับ และของอะไรไม่ค่อยได้ใช้ มันจะฟื้นช้านะผมว่า แล้วผมทำอย่างไร

       พอดีคุณแม่ ก็เตือนว่า หากใช้ไม้เท้าต่อไปมันจะหายช้านะ ผมก็คิดว่าน่าจะจริง ผมจึงตัดสินใจ ลาพักร้อนครับ

    1.เพื่อมีเวลาต่อเนื่อง ที่มากพอครับในการ ฝึกเดินไม่ใช้ไม้เท้า โดยผมคงจะไปเดินในสวน ที่ผมไปประจำโดยตั้งใจว่า จะเดินวันละ ไม่ต่ำว่า 1 ชั่วโมง ทุกเช้า ช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มสปีด ไม่ต้องรีบครับ เอาให้ รู้หมดว่า ตรงไหน ยังอ่อน ไม่แข็งแรง ก็เดินไป

   2. สัก 9-10 วัน ครับต่อเนื่อง

 นี่เป็นแผนที่วางไว้ คือสัปดาห์หน้าผมพักร้อน เอาไว้ ผมจะมาเขียนให้อ่านกันอีกครั้งครับ ว่าหลังพักร้อน ราวๆ 10 วัน การเดินของผมเป็นอย่างไร

     อาการขาอ่อนแรง จากที่เคยอ่านมา มีทั้งแบบ เป็นมาก อันนี้ควรหาหมอให้เร็วๆ สำหรับคนมีอาการบ้าง สาเหตุมาจาก ความเจ็บปวด หรือการใช้งานกล้ามเนื้อ มากเกินไป มันส่งผลกระทบกับ เส้นประสาทครับ อาจจะเส้นประสาทโดยตรง หรือ ตัวรับสัญญาณ ก็ได้ วิธีที่ควรทำ คือ หาหมอได้ก็หา คนที่ดูแลเองก็ควร ออกกำลังกาย อวัยวะที่อ่อนแรงลงไป เช่น ข้อเท้า ข้อเข่า สะโพก เอว หรือกล้ามเนื้อต่างๆ

        ผมเป็นตอนเดือนแรกๆ ผมมีอาการที่ข้อเท้าขวา คือ วางเท้าบนพื้น ในท่านั่ง ผมจะยกปลายเท้าขวาขึ้นมาได้เพียงครึ่งเดียวของเท้าซ้าย มองไปก็สังเวชตัวเอง ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะเป็นแบบนี้ได้ แต่ก็สู้ครับ ตอนนี้ ก็กลับมายกได้เท่าๆ กันแล้ว :0) คือร่างกายมันก็ช่วยรักษาตัวเองครับ ขอให้ใจสู้ครับ

       ก่อนหาย ที่ข้อเท้า ผมเอาน้ำหนักราวๆ 1 กิโลกรัมวางที่ด้านบนเท้า แล้วยกแบบเพาะกาย 3 เซ็ท เซ็ทละ 12 ครั้ง สลับ 2 ข้าง แม้ว่าข้างซ้ายจะปกติ แต่เราทำไปด้วยกันครับ  การที่ข้างปกติออกกำลังไปด้วยช่วยให้เรา แข็งแรง เอาพลังมาช่วยเวลาเรา เป๋ หรือ ทรงตัวไม่ดีได้อีกด้วยจริงไหม?

     หลังจากนั้น กำลังที่ขาผมกลับมาเร็วขึ้น ผมจึงเชื่อว่า ท่าเพาะกายต่างๆ หากเอามาใช้ในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ครับ

      จริงๆแล้วเคยเจอหมอนวดไทย เขาแนะว่า มาหาเขาน่าจะหายได้ เพราะยังหนุ่ม แต่ผมขอลองรักษาตัวเองกอน ก็ดีมาเรื่อยๆ แต่ใครมีหมอดีก็ไปหาหมอก่อนครับ ของผมทำแล้วดีขึ้นเรื่อยๆ ก็แล้วแต่ครับ

      จากหลักวิชาฝังเข็ม เขาว่า การที่เป็นโรคใดๆ มาจาก เลือดอุดตัน กับไม่ไหวเวียน หากทำให้เลือดไหลเวียนมาถึงได้ ก็จะหายได้ การเพาะกายก็เช่นกันครับ เวลาเราหัด มันก็

            1.ลมปราณ คือให้เพ่งที่กล้ามเนื้อนั้นๆ หายใจออกตอนออกแรง
            2. เมื่อออกแรง กล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็มีฉีกขาด เลือดย่อมไหลเวียน มีการใช้พลังงาน
            3.กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น เพราะการซ่อมแซมตัวเองของกล้ามเนื้อนั้นๆ
         
      มันก็เข้าทั้ง ลมปราณ และ ฝังเข็มครับ ผมเชื่อส่วนตัวว่า ผมจะหายดีได้ครับ รอฟังผลการฝึกกันต่อไปครับผม

   หมายเหตุ: ให้ไว้เป็นวิทยาทาน  สมุนไพรเถาวัลย์เปรียง แบบแค็ปซูลก็ได้ ลองหามารับประทานครับ ช่วยเรื่องการเจ็บ ของหลังส่วนล่างโดยตรง โดยไม่ระคายกระเพาะเหมือนยาของฝรั่ง อาจมีผลให้ท้องผูก เมื่อไรท้องผูกให้หยุดกิน สัก 4-5 วันครับ กิน 1 ครั้งอาจอยู่ได้ 2-3 วันเลย แล้วยังมีผลในการเข้าไปช่วยรักษาด้วยไม่ได้แก้ปวดเฉยๆ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)

No comments:

Post a Comment